ทำ-seo
55
SHARE

จ้างทำ SEO vs ทำเองแบบไหนดีกว่ากัน?

หากคุณกำลังตัดสินใจระหว่างจ้างทำ SEO กับเลือกทำ SEO เอง (In-house) สิ่งที่คุณควรรู้เบื้องต้นมีหลายอย่าง ตั้งแต่การทำความเข้าใจ SEO จนไปถึงการกำหนดงบประมาณ ซึ่งการศึกษารายละเอียดเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ช่วยให้การตัดสินใจของคุณง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ปรับความเข้าใจพื้นฐานก่อนทำ SEO

SEO (Search Engine Optimization) คือ วิธีการปรับแต่งเว็บไซต์ ปรับปรุงเนื้อหาบทความ และการทำ backlink เพื่อให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากพอในการแสดงผลอันดับต้นๆ บนหน้าแรกของ Search Engine โดยแนวทางการทำ SEO แบ่งออกเป็น 3 ด้านดังนี้

  1. ด้านเนื้อหา เช่น การนำ Keyword ที่ต้องการมาใช้งานเขียนบทความเพื่อให้ Google รู้ว่าเว็บไซต์นี้เป็นเว็บเกี่ยวกับอะไร และนำไปสู่การจัดอันดับในหน้าค้นหาต่อไป
  2. ด้านโครงสร้างและประสิทธิภาพของเว็บไซต์ เช่น การทำ Internal link และ การทำ HTTPS เป็นต้น
  3. ด้านความน่าเชื่อถือ เช่น การได้รับแหล่งอ้างอิงจากเว็บไซต์ภายนอก (backlink)

ไม่ว่าคุณจะจ้างทำ SEO หรือทำเอง ทั้งสามด้านนี้เป็นสิ่งที่คุณต้องทำควบคู่กันไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเว็บไซต์ ทำให้เว็บติดหน้าหนึ่งในการค้นหา และนำไปสู่การบรรลุเป้าหมายของการทำเว็บ

hiring-seo-specialist-01

เปรียบเทียบการจ้างทำ SEO กับการทำ SEO เอง (In-house)

สำหรับการทำ SEO ทั้งการจ้างและทำเองมีปัจจัยในการพิจารณาหลายด้าน ทั้งความพร้อมในการทำ SEO, ค่าใช้จ่าย และระยะเวลา มาดูกันว่าในแต่ละปัจจัยใครจะเป็นผู้ชนะ

ยกที่ 1: ความพร้อมในการทำ SEO

ความพร้อมในที่นี้หมายถึง ด้านบุคลากรบริษัทในการดำเนินการ ทั้งในแง่ของประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านภายในทีม ซึ่งในข้อนี้การจ้างบริษัทที่รับทำ SEO มีข้อได้เปรียบในเรื่องของบุคลากรที่มีความพร้อมในด้านการทำงานโดยเฉพาะประสบการณ์และความเชี่ยวชาญช่วยให้งานมีคุณภาพ อีกทั้งยังสามารถลดระยะเวลาการทำงานลงได้อีกด้วย

จริงอยู่ที่บริษัทของคุณสามารถจ้างพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญมาทำงานได้ แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ บริษัทที่รับทำ SEO โดยเฉพาะ มักเจอปัญหาที่หลากหลายกว่า ดังนั้นความสามารถและระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาที่รวดเร็ว ส่งผลให้บริษัทที่รับจ้างทำ SEO มีความพร้อมมากกว่าบริษัทที่ทำเอง

ยกนี้ผู้ชนะคือ บริษัทรับทำ SEO

ยกที่ 2: ระยะเวลา

ในการทำ SEO มีกระบวนการหลายอย่าง ตั้งแต่การวางแผนปรับโครงสร้างเว็บไซต์ไปจนถึงการเขียนบทความ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการทำประมาณ 1-3 เดือน ซึ่งในข้อนี้บริษัทที่ทำ SEO ด้วยตัวเองจะได้เปรียบ เนื่องจากทีมงานสามารถโฟกัสไปที่การทำ SEO โดยเฉพาะ ระยะเวลาในการทำอาจจะสั้นกว่าการจ้าง ซึ่งต้องทำงานให้ลูกค้าหลายเจ้า ทำให้ระยะเวลาการทำงานอาจจะล่าช้ากว่าบริษัทที่ทำเอง

แต่ทั้งนี้จำนวนงานไม่สามารถบ่งชี้ถึงระยะเวลาในการทำได้ทั้งหมด เนื่องจากการทำ SEO ต้องอาศัยประสบการณ์ ถึงแม้ว่าบริษัทที่ทำเองจะมีเวลาในการทำงานมากกว่า แต่อาจจะต้องลองผิดลองถูก ซึ่งประสบการณ์จากบริษัทที่รับจ้างทำ SEO จะช่วยลดระยะเวลาการทำงานได้

ดังนั้นในยกนี้จึงไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครชนะ เพราะมีปัจจัยที่แฝงอยู่มาก การทำเองอาจมีระยะเวลาการทำที่น้อยกว่าแต่คุณภาพอาจจะสู้บริษัทที่เชี่ยวชาญ ซึ่งใช้ระยะเวลาในการทำนานกว่าไม่ได้

ยกนี้ผลคือ เสมอ

ยกที่ 3: ค่าใช้จ่าย

หนึ่งในปัจจัยสำคัญเพื่อพิจารณาการทำ SEO คือ ค่าใช้จ่าย หากเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายระหว่างการจ้างบริษัทกับลงทุนทำเอง ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่จะหมดไปกับค่าจ้างพนักงาน โดยการจัดตั้งทีมเพื่อทำ SEO ประกอบไปด้วย Writer (เขียนบทความ SEO), Developer (คนพัฒนาเว็บไซต์), Graphic Designer (ออกแบบรูปประกอบบทความ), SEO Specialist (แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นขณะทำ SEO) และสุดท้ายคือ Digital Marketing Planer (วางแผนการทำตลาดออนไลน์)

จะเห็นได้ว่าในการทำ SEO ต้องอาศัยพนักงานจำนวนมาก หากพนักงานหนึ่งคนมีเงินเดือนอยู่ที่ 25,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการทำต่อเดือนก็มากกว่าหนึ่งแสนบาทแล้ว ทั้งนี้เงินเดือนในแต่ละตำแหน่งก็ไม่เท่ากัน อย่าง Developer หากเลือกคนที่มีประสบการณ์คุณอาจจะต้องจ่ายมากกว่า 50,000 บาทต่อเดือน ดังนั้นค่าใช้จ่ายก็อาจจะมากกว่าหนึ่งแสนต่อเดือน

อีกทั้งบริษัทที่ลงทุนทำเอง ค่าใช้จ่ายจะเป็นในรูปแบบ Fix Cost ต้นทุนมีแค่เพียงเงินเดือนพนักงาน ซึ่งข้อดีของต้นทุนแบบนี้ คือ ความมั่นคง จ่ายเงินเท่าเดิม ไม่ต้องกังวลเรื่องงบบานปลาย

หากเลือกบริษัทที่รับทำ SEO ค่าใช้จ่ายจะเป็นสัญญาจ้างราย 3 เดือน 6 เดือน จนถึงหนึ่งปี อัตราค่าจ้างไม่ตายตัว ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัท โดยการจ้างต้นทุนจะเป็น Variable Cost หรือต้นทุนแปรผัน ความแปรผันอ่านแล้วเหมือนการจ้างจะน่ากลัว เพราะควบคุมต้นทุนไม่ได้ แต่แท้จริงแล้วผู้ว่าจ้างสามารถกำหนดความแปรผันได้เอง

โดยผู้จ้างอย่างคุณสามารถกำหนดงบประมาณในการจ้างได้ชัดเจน สามารถปรับลดงบประมาณในสัญญา ทำให้ค่าใช้จ่ายลดลง อีกทั้งยังไม่มีพันธะผูกพันเหมือนกับการจ้างพนักงาน ทำให้การจ้างทำ SEO มีแนวโน้มที่คุ้มค่ากว่าทำเอง

ตารางเปรียบเทียบค่าใช้จ่าย

hiring-seo-specialist-02

*หมายเหตุ

1. ค่าใช้จ่ายทั้งหมดเป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น
2. ค่าจ้างทำ SEO ไม่มีตายตัวขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทและขนาดของงาน
3. ค่าใช้จ่ายในการทำ SEO เอง คิดมาจาก การคำนวณเงินเดือน 25,000 ของทุกคนในทีม (5 คน) 25,000 x 5 = 125,000 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ในความเป็นจริง เงินเดือนของทุกคนไม่ได้เท่ากัน อาจมีน้อยและมากกว่าค่าเฉลี่ย เช่น Developer เงินเดือนขั้นต่ำอยู่ 30,000 บาท หรือ Writer มีเงินเดือนเฉลี่ย 23,000 บาท เป็นต้น

ยกนี้ผู้ชนะคือ บริษัทรับทำ SEO

ตารางเปรียบเทียบจ้างทำ SEO vs ทำเอง

hiring-seo-specialist-03

สรุป

ในการทำ SEO ทั้งจ้างทำและทำเอง ล้วนแล้วแต่มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ทั้งปัจจัยเรื่องความพร้อม ระยะเวลา รวมไปถึงค่าใช้จ่าย ขึ้นอยู่กับมุมมองของเจ้าของธุรกิจว่าให้ความสำคัญกับสิ่งไหนมากกว่ากัน แต่สำหรับใครที่เลือกทำเว็บไซต์เอง มีหนึ่งสิ่งที่ทางเราอยากฝากไว้ให้พิจารณาคือ ค่าเสียโอกาส ทั้งเวลาและกำไรที่จะได้รับจากผู้เชี่ยวชาญด้วย

สุดท้ายนี้สำหรับใครที่กำลังมองหาบริษัทรับจ้างทำ SEO ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Digital (Inbound) Marketing เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการตลาดออนไลน์ให้บริษัทคุณ สามารถปรึกษาพูดคุยกับพวกเรา Magnetolabs ได้เลย

 

Author

Peranut

"Passionate Learner"
"Passionate Learner"

Related Blog

Leave Your Comment