working-experience-during-covid19-cover
SHARE

ประสบการณ์ทำงานที่ใหม่ให้มีประสิทธิภาพในช่วงระหว่าง COVID-19

ในสภาวะที่ถูกห้อมล้อมด้วยวิกฤต COVID-19 แบบนี้ การทำงานในระบบ Work From Home จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์เป็นอย่างมากสำหรับการทำงานในบริษัท เพื่อเป็นการรับรองความปลอดภัยของตัวพนักงาน และภาพลักษณ์ขององค์กรนั่นเอง

แต่สำหรับผู้ที่เริ่มต้นการทำงานกับบริษัทใหม่ในช่วงนี้ อาจต้องเผชิญกับความตื่นเต้น และความกดดันแบบคูณสอง! ในสถานการณ์แบบนี้… เราควรทำยังไงให้สามารถปรับตัวและทำงานในที่ใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดกันล่ะ?

สำหรับบทความนี้ เรา “เติร์ก” Senior Graphic Designer จาก Magnetolabs ที่ต้องเผชิญกับการทำงานในบริษัทใหม่แบบ Work From Home จะมาแชร์วิธีการปรับตัวและทำงานให้มีประสิทธิภาพท่ามกลางสภาวะนี้กันครับ

การทำงานแบบออนไลน์ให้มีประสิทธิภาพ

เนื่องจากสถานการณ์ COVID-19 ยังไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น ทำให้เราต้องเริ่มต้นเข้ามาทำงานในตำแหน่ง Senior Graphic Designer ผ่านการ Work From Home ตั้งแต่วันแรก จึงทำให้การปรึกษาและการทำงานในแต่ละโปรเจกต์นั้นต้องทำผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น ทำให้การสื่อสารเป็นไปได้ค่อนข้างลำบาก

เนื่องจากเราเป็นคนใหม่ของที่นี่ จึงต้องรีบปรับตัวทำความเข้าใจทั้งในเรื่องระบบการทำงานและการสื่อสารกับคนในทีมให้ได้โดยเร็ว เพื่อให้งานออกมาได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ด้วยวิธีการ “สื่อสารด้วยภาพ”

working-experience-during-covid19-01

  • สื่อสารด้วยภาพเข้าใจง่ายกว่า

การสื่อสารผ่านตัวอักษรอาจทำให้เข้าใจไม่ตรงกันนัก ดังนั้นการมอบหมายให้สมาชิกในทีมทำภาพ หรือนำเสนอไอเดียผ่าน Video Call เป็นวิธีแก้ไขปัญหาที่จะทำให้ทุกคนในทีมสามารถมองเห็นภาพรวมได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถแสดงความคิดเห็น หรือสอบถามข้อสงสัยของแต่ละส่วนได้ชัดเจนยิ่งขึ้นด้วย

หากการทำงานในช่วงเริ่มต้นสามารถสร้างความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกันได้แล้ว ขั้นตอนต่อๆ ไปก็มีเพียง Detail เล็กๆ ที่สื่อสารกันได้ไม่ยาก และสามารถผลิตผลงานออกมาให้สมบูรณ์ได้

การจัดการไทม์ไลน์และรับผิดชอบชิ้นงานของตัวเอง

ในการทำงานแต่ละโปรเจกต์ สิ่งแรกที่เราควรรับรู้ก่อนเริ่มการทำงานนั่นก็คือ “ไทม์ไลน์ของการทำงาน” เราควรรู้ว่าระยะเวลาของการทำงานแต่ละชิ้นนั้นใช้เวลามากเท่าไหร่ ให้สามารถวางแผนจัดการไทม์ไลน์ให้งานเสร็จได้ตามระยะเวลาที่กำหนด

การที่เรารู้ระยะเวลาของแต่ละชิ้นงานที่ทำนั้น มีข้อดีที่จะช่วยให้สามารถวางแผนจัดการกับเวลาให้งานแต่ละชิ้นสามารถเสร็จทันเดดไลน์ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเวลาที่มีงานเข้ามาเป็นจำนวนมากๆ ที่อาจทำให้สับสนกับการลำดับงาน

อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยนั่นก็คือ “เดดไลน์ของตัวเอง” เพื่อไม่ให้กระทบกับชิ้นงานอื่นๆ ในระยะยาว เราจึงแบ่งไทม์ไลน์ไว้เป็น 2 ช่วงเวลา นั่นก็คือ เดดไลน์จริง และเดดไลน์ปลอม

  • เดดไลน์จริง VS เดดไลน์ปลอม

เดดไลน์ปลอมนั้นจะเป็นการตั้งเวลาไว้ล่วงหน้าก่อนวันเดดไลน์จริง อาจจะเป็นหลักชั่วโมง หรือหลักวันก็ได้ ที่ตั้งไว้แบบนี้ก็เพื่อเป็นจัดการตัวเองเป็นหลัก งานไหนที่เราเสร็จก่อนกำหนด เราก็สามารถต่อส่งงานให้กับคนอื่นที่ต้องทำงานต่อจากเราได้ทันที

ในบางครั้งการเผื่อเดดไลน์ล่วงหน้าแบบนี้ไว้ ก็มีประโยชน์กับการทำงานโดยภาพรวม เพราะบางครั้งชิ้นงานที่ทำไป อาจมีการปรับแก้ไข หรือมี feedback ที่ต้องการปรับจากทางลูกค้า ซึ่งจะกินระยะเวลาเพิ่มเติมจากไทม์ไลน์เดิม

การทำงานให้ Productive ได้แม้ Work From Home

  • ทำงานตาม Office Hours

บ้านเปรียบเสมือน Safe Zone ของทุกคน แต่เมื่อถึงเวลาที่เราจะต้องเปิด Safe Zone ไว้เป็นที่สำหรับทำงานด้วย จึงทำให้หลายคนเกิดปัญหางานไม่เดิน หรือไม่ค่อยมีอารมณ์ในการทำงาน

…ดังนั้นวิธีแก้ปัญหาจึงควรเริ่มจากการปรับแนวคิด และวางแผนเพื่อทำให้การทำงานมีความ Productive อยู่เสมอ

การทำงานที่บ้านนั้นไม่ควรจะรบกวนเวลาส่วนตัวโดยไม่จำเป็น เราจึงควรยึดเวลาในการทำงานให้เป็น Office Hours เหมือนเวลาที่เราทำงานที่ออฟฟิศ ในเรื่องของการตื่นตัวในการทำงานก็สำคัญเช่นกัน โดยเฉพาะกับตอนที่เราอยู่ในโหมด Work From Home ด้วยแล้ว เราจึงต้องตื่นตัวและเตือนตัวอยู่เสมอว่า นี่คือเวลาทำงาน นี่คือชั่วโมงของการทำงาน เหมือนเป็นการกระตุ้นตัวเองเพื่อให้เกิดความ Active และลดเปอร์เซ็นต์ความขี้เกียจลง

  • Work life balance

การทำงานให้มีความ Productive นั้นต้องมาควบคู่กับการทำงานอย่าง Balance การจัดการให้ทุกอย่างอยู่ในความพอดี และเหมาะสม ไม่ตึง หรือหย่อนจนเกินไป แต่ยังสามารถได้เนื้องานที่ดี ทันเวลา และตรงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้เหมือนกับตอนเราทำงานที่ออฟฟิศ

หากเราสามารถรักษาสมดุลนี้ได้ ก็จะทำให้เราผ่อนคลายได้มากขึ้นและทำงานออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่แพ้นั่งทำงานที่ออฟฟิศ

working-experience-during-covid19-02

การสร้าง Environment ในบ้านระหว่างการทำงาน

อีกหนึ่งปัญหาที่หลายๆ คนอาจได้เจอในช่วง Work From Home นั่นก็คือ การที่สถานที่ทำงานและที่พักอาศัยถูกมารวมอยู่ที่เดียวกัน ทำให้รู้สึกว่าพื้นที่ Comfort Zone ของตัวเองถูกแย่งไปใช้เนื่องจากมีความเครียดสะสมเพราะงาน

บางคนที่อาศัยอยู่เป็นบ้านอาจจะยังโชคดีหน่อย ที่มีหลายห้องแยกกันอย่างชัดเจน เช่นเราตื่นมา ทำงานตอนเช้าที่บริเวณห้องรับแขก และกลับมาพักผ่อนหลังเลิกงานที่ห้องนอน แต่หลายคนที่อาจจะอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ค่อนข้างจำกัด และทุกอย่างอาจจะถูกตีเข้ามาในพื้นที่เดียวกัน เช่นหอพัก หรือคอนโด

…แล้วจะจัดการกับปัญหานี้ยังไงดีล่ะ?

  • แต่งโซนทำงานเพิ่มความ Active

สำหรับวิธีการแก้ปัญหาง่ายๆ ที่เราได้ทดลองทำดูแล้วเห็นผลจริงนั่นก็คือ การจัด Working Space ให้มีความเหมาะสมสำหรับการทำงานนั่นเอง

ลองตกแต่งมุมทำงานใหม่ในสไตล์ที่เราชอบ เสริมทัพด้วยของใช้ในสำนักงานแบบพร้อมใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงาน เติมความสดชื่นอีกนิดด้วยต้นไม้ต้นเล็กๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว และความสบายตา หรือการนำโปสการ์ดมาแปะบริเวณผนัง เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ไม่แน่นะว่าถ้าจัดพื้นที่ใหม่ในแบบที่เราชอบแล้ว อาจจะทำให้เราอยากนั่งทำงานอยู่ตรงนั้นตลอดวันก็เป็นได้

  • เลือก Playlist ก็ทำงาน Happy ทั้งวัน

อีกหนึ่งวิธีในการสร้าง Environment ที่เหมาะสมกับการทำงาน จากที่เราได้ลองทำมาดูนั่นก็คือ การเปิดเพลง หรือเลือก Playlist ดีๆ ในระหว่างการทำงานและเปิดผ่านลำโพงเพื่อสร้างบรรยากาศโดยรอบ ซึ่งการเลือกนั้นก็ตามแต่ลรสนิยมการฟังของแต่ละคนไป ไม่มีผิดไม่มีถูก

สำหรับเราในตอนเช้าเราจะเน้นฟังเป็นพวก Lo-Fi Music เพราะเป็นแนวเพลงที่เรารู้สึกว่าฟังแล้วสบาย แล้วช่วยกระตุ้นการทำงานในช่วงเวลาเช้า-สาย ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าเป็นช่วงบ่ายเราเลือกเป็นแนวเพลงโปรดที่เราชอบฟังมาเปิด

แต่ในช่วงบ่ายเราจะง่วงง่ายมาก ดังนั้นเพลงหรือดนตรีที่เราเลือกอาจจะต้องมีความสนุกกว่าในช่วงของตอนเช้ามากขึ้น เพื่อให้หนังตาไม่หย่อนตามสภาพเวลา อย่างเช่น K-POP หรือเพลงในยุค 90’s

จริงๆ การจัดการ Working Space หรือเปิดเพลงคลอตลอดการทำงานก็เป็นเหมือนการทำให้เราผ่อนคลายมากขึ้นจากงานที่ทำอยู่ตรงหน้า เพราะบางทีถ้าเรามัวแต่เครียดมากเกินไป ความเครียดของเราจะถูกส่งออกมาผ่านงานได้โดยง่าย ดังนั้นก็ควรจะมีการบำบัดตัวเองผ่านตัวช่วยเหล่านี้เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Summary

การทำงานเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพทำได้เสมอ ไม่ว่าเราจะอยู่ในสภาวะสถานการณ์แบบไหน ถ้าเรารู้จักเซ็ตระบบตัวเองให้พร้อมกับการทำงาน การทำงานเพื่อให้เกิดความ Productive อยู่ตลอดเวลาก็ไม่ใช่เรื่องยาก ต่อให้สถานที่นั้นๆ ไม่ได้เป็นออฟฟิศก็ตาม เพียงแต่เราต้องรู้และทำงานให้เต็มที่ในทุกๆ ครั้งเพื่อตัวเอง และเพื่อนร่วมทีมในโปรเจ็กต์นั้นๆ
New call-to-action

New call-to-action

Author

Wachirawit Teppratoom

Senior Graphic Designer หัวใจเคป๊อป ผู้รู้ ผู้ไม่ตื่น ผู้เบิกบานบางเวลา ผู้ใช้ชีวิต 25 ชั่วโมงในหนึ่งวัน ผู้ถูกเยียวยาจิตใจได้ด้วยการเข้าป่าปีละหนึ่งครั้ง เพื่อเสริมสร้างความกว้างของรอยยิ้ม
Senior Graphic Designer หัวใจเคป๊อป ผู้รู้ ผู้ไม่ตื่น ผู้เบิกบานบางเวลา ผู้ใช้ชีวิต 25 ชั่วโมงในหนึ่งวัน ผู้ถูกเยียวยาจิตใจได้ด้วยการเข้าป่าปีละหนึ่งครั้ง เพื่อเสริมสร้างความกว้างของรอยยิ้ม

Related Blog

Leave Your Comment