มั่นใจเลยว่าใครหลายๆ คนคงจะเคยได้ยินหรือผ่านตากับประโยคยอดฮิตโดย นักเขียนชาวอเมริกัน Neale Donald Walsch ที่กล่าวไว้ว่า
“Life begins at the end of your comfort zone”
การใช้ชีวิตจริงๆ นั้นจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อคุณเริ่มก้าวออกจากเขต Comfort Zone ของคุณ ซึ่งเป็นประโยคที่มีนเห็นด้วยมากๆ เพราะประสบการณ์ฝึกงานในครั้งนี้ของมีนก็เปรียบเสมือนการที่ได้เริ่มก้าวออกจากชีวิตเดิมๆ และความเคยชินของตัวเอง นับเป็นก้าวแรกในการเริ่มต้นครั้งสำคัญที่จะนำพามีนเข้าใกล้สู่คำว่าชีวิตจริงไปอีกหนึ่งขั้น
จุดเริ่มต้น
มีนเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขา การจัดการออกแบบ ธุรกิจ และเทคโนโลยีที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และต้องมีการฝึกงานเพื่อเก็บหน่วยกิต ความคิดแรกที่เข้ามาในหัวคือ อยากฝึกงานด้าน Digital Marketing จัง แต่ความรู้ในด้าน Digital Marketing เท่ากับศูนย์ แต่ถ้าไม่ลองก็ไม่รู้จริงไหม? จนมีนจึงได้มาเจอกับ Magnetolabs จากบทความรีวิวฝึกงานที่ค้นหาเจอใน Google นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มีนได้มีโอกาสเข้าร่วมฝึกงานกับทาง Magnetolabs เป็นระยะเวลาร่วม 4 เดือนในตำแหน่ง Digital Marketer
ฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นระยะเวลาที่นานพอสมควรเลยเนอะ แต่เอาเข้าจริงๆ 4 เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหกเลยแหละ อีกทั้งการฝึกงานในครั้งนี้ดูผ่านๆ แล้วอาจจะดูเหมือนเป็นการฝึกงานธรรมดาทั่วไป แต่ความจริงแล้วมันไม่ใช่เลยสักนิดเดียว เพราะว่าพอเริ่มต้นฝึกงานอยู่ดีๆ ก็ดันมาเจอแจ๊คพอตกับช่วงสถานการณ์โควิด 19 พอดี จึงมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นมากมาย
การเปลี่ยนแปลง
ในช่วงที่สถานการณ์โควิดเริ่มรุนแรงขึ้น พวกเราชาว Magnetolabs ได้เริ่มการทำงานกันแบบ Work from Home อย่างเป็นทางการ เพื่อที่จะช่วยลดความเสื่ยงต่อสถานการณ์โควิด19 ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาการทำงานต่างๆ ของทางบริษัทส่วนใหญ่จะเป็นการทำงานที่ต้องทำในรูปแบบออนไลน์อยู่แล้ว โดยผ่านทั้งโปรแกรมและเครื่องมือที่หลากหลายเช่น Slack, Clickup, Hubspot และ อื่นๆ อีกมากมาย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น พี่ๆ ก็ได้มีการวางแผนและร่างแผนการ Work from Home ในแบบฉบับของชาว Magnetolabs ขึ้นมาเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับพวกเราทุกคนให้ได้ทำงานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพในช่วงเวลากักตัวนี้ ยอมรับเลยว่ามีนตื่นเต้นสุดๆ แล้วก็แอบเครียดด้วยเพราะว่ามีนไม่เคยมีประสบการณ์การทำงานแบบ Work from Home มาก่อนเลย
ในช่วงแรกของการ Work from Home ก็ต้องเจอกับการเปลี่ยนแปลงมากมาย เช่น จากที่เราเคยประชุมแบบ Stand Up มีตติ้งในทุกวันจันทร์และศุกร์ของทุกๆ อาทิตย์ ก็ต้องเปลี่ยนมาเจอกันใน Google Meet แทนในทุกๆ เช้าเย็นของทุกๆ วัน แต่ก็นับว่าการได้พูดคุยอัปเดตงานและโปรเจคต่างๆ กับพี่ๆ ก็ช่วยให้คลายเหงาไปได้เยอะเลยค่ะ แต่แน่นอนว่า Work from ome ครั้งนี้ก็ได้พ่วงมากับความท้าทายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ค่ะ
ความท้าทายที่ได้พบจาการฝึกงานแบบ Work from Home
1.การสื่อสาร
สำหรับมีน การสื่อสารนับว่าเป็นความท้าทายอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ เพราะถึงแม้ว่าพวกเราจะมีการเตรียมพร้อมด้านการสื่อสารออนไลน์มากแค่ไหน แต่พอต้องลงสนามจริงความผิดพลาดก็สามารถเกิดขึ้นได้อยู่เสมอๆ ค่ะถ้ายังอ่อนประสบการณ์ เพราะว่าท้ายสุดแล้วการสนทนาหรืออธิบายงานแบบตัวต่อตัวก็ย่อมเห็นผลดีกว่าอยู่แล้วค่ะ แต่ในเมื่อสถาการณ์มันเป็นแบบนี้แล้วเราก็ต้องปรับตัวเองให้อยู่กับมันให้ได้ เพราะหลังจากเวลาผ่านไปสักพัก มันก็เริ่มเกิดเป็นความเคยชินแล้วข้อผิดพลาดก็ลดน้อยลงตามไปด้วยค่ะ เรื่องนี้ทำให้มีนได้เรียนรู้ว่า จริงๆ แล้ว การสื่อสารออนไลน์จะไม่เป็นอุปสรรคอีกต่อไปถ้าเรารู้วิธีที่จะจัดการกับมันได้อย่างถูกต้องค่ะ
2.การรักษาวินัยให้กับตัวเอง
การ Work from Home ทำให้เราต้องรักษาวินัยให้กับตัวเองเยอะมากๆ เพราะการทำงานที่บ้านนั้นทำให้เกิดการไขว้เขวได้ง่ายมาก ไม่ว่าจะเป็น ประสบการณ์เตียงดูดที่ทำให้จาก Work from Home กลายเป็น Work from Bed หรือการที่รู้ตัวอีกทีก็เผลอไปเปิดซีรี่ย์ดูจนเวลาได้ล่วงเลยผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ในเมื่อทุกอย่างมันอิสระมาก หน้าที่เลยตกมาที่ตัวเราล้วนๆเลยค่ะที่ต้องควบคุมตัวเองให้รักษาวินัยอยู่ตลอดเวลาเพื่อที่จะได้ Work from Home ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
3.ความเบื่อและความเหงา
แน่นอนว่ามนุษย์ที่เป็นสัตว์สังคมอย่างเราๆ จากที่เคยได้พูดคุยและเจอเพื่อนร่วมงานอยู่อย่างเป็นประจำๆ แต่ตอนนี้กลับต้องจ้องหน้าจอทำงานคนเดียวไร้ซึ่งปฏิสัมพันธ์ใดๆ กับใคร ก็เลยทำให้ความเหงาและความเบื่อหน่ายก่อตัวขึ้น ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับมีนในช่วงแรกๆ เช่นกันค่ะ แต่ทาง Magnetolabs ก็คอยหากิจกรรมมาให้พวกเราชาวออฟฟิศได้ร่วมจอยกันอยู่เรื่อยๆ เช่น ถ้าหากใครที่ไม่อยากกินข้าวคนเดียวแบบเหงาๆ ก็สามารถจอย lunch มีตติ้งเพื่อมากินข้าวและพบปะกับเพื่อนร่วมงานได้ค่ะ
แต่มีหนึ่งเหตุการณ์ที่สร้างความเซอร์ไพรส์และประทับใจให้กับมีนมากๆ นั่นก็คือ ตอนที่ทาง Magnetolabs แอบส่ง Mystery Box มาให้พวกเราถึงหน้าบ้านเพื่อที่จะมอบของขวัญให้พวกเราเนื่องในโอกาสวันสงกรานต์ ทำให้มีนประทับใจในความใส่ใจของ Magnetolabs เป็นอย่างมากค่ะ แถมของในนั้นยังเป็นของที่ถูกใจพวกเราชาว Magnetolabs เป็นอย่างมากด้วยค่ะ เรียกได้ว่าทางบริษัทนี่รู้ใจพวกเราจริงๆ
ส่งท้าย
สุดท้ายแล้ว ถึงแม้ว่าตอนแรกมีนจะคิดว่าความท้าทายเหล่านี้คืออุปสรรคในการทำงาน แต่หลังจากที่มีนได้ตกผลึกความคิดและพูดคุยกับตัวเองกับทำให้มีนได้พบว่า ความท้าทายเหล่านี้คือคือบทเรียนชั้นดีที่ทำให้เราได้มีโอกาสได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และพัฒนาศักยภาพของตัวเราเอง ซึ่งมีนคิดว่านี่คือความโชคดีของมีนที่ทำให้มีนได้มาฝึกงานในช่วงสถานการณ์แบบนี้เพราะประสบการณ์แบบนี้คงไม่สามารถหาที่ไหนได้อีกแล้ว
อย่างที่พูดไปในตอนแรกว่าการฝึกงานก็เปรียบเสมือนเป็นก้าวแรกของการเข้าสู่ชีวิตการทำงานจริง เพราะว่าเราจะได้มีโอกาสได้ลงมือทำจริงและก็จะได้เป็นการเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองสำหรับการทำงานที่กำลังจะขึ้นในอนาคต นอกจากจะได้ความรู้และสกิลที่จะเพิ่มขึ้น การฝึกงานที่นี่ยังมอบคอนเนคชั่นดีๆ ที่ไม่รู้จะหาได้จากที่ไหนได้แล้วอีกด้วย
อ่านมาถึงตรงนี้มีนอยากจะขอบคุณพี่ๆ Magnetolabs ทุกคนที่คอยสอน แนะนำแนวทางในการทำงาน และที่มีส่วนร่วมในการสร้างประสบการณ์การฝึกงานครั้งแรกในชีวิต และ ความทรงจำดีๆ ที่มีนจะไม่มีวันลืมได้เลยค่ะ และสำหรับใครที่กำลังมองหาที่ฝึกงานสายดิจิทัลที่ได้คิดจริง ทำงานจริง เจ็บจริง แถมมีพี่ๆ คอยให้คำแนะนำอยู่ตลอด สามารถดูรายละเอียดได้ที่ Magnetolabs Career ที่นี่จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ผิดหวังแน่นอนค่ะ 🙂