SHARE

กลยุทธ์การทำ Link Building สร้าง Backlink ให้เว็บไซต์ติดหน้าแรก

ในการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization ให้ประสบความสำเร็จนั้น แค่การปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์ให้ดีอาจจะยังไม่เพียงพอ ยังมีองค์ประกอบสำคัญอื่นที่เราไม่ควรมองข้ามอย่างการทำ Link Building ที่เป็นตัวช่วยให้เว็บไซต์ของเรามี Traffic มากยิ่งขึ้นด้วย

วันนี้เราจะมาดูกันว่า Link Building นั้นมีผลต่อการทำ SEO ของเราอย่างไรบ้าง?

ทำความเข้าใจ SEO เบื้องต้นก่อนรู้จักกับ Link Building

การปรับแต่งเว็บไซต์ตามหลัก SEO สามารถแบ่งออกได้เป็นสองประเภทหลัก คือ การปรับแต่งภายในเว็บไซต์ (On-Page) และภายนอกเว็บไซต์ (Off-Page) ซึ่งทั้งสองส่วนทำงานร่วมกันในการผลักดันให้เว็บไซต์ติดอันดับในการค้นหา (Search Result) โดยวิธีการปรับของทั้งสองส่วนมีดังนี้

  • On-Page สามารถทำได้ด้วยการสร้างเนื้อหา (Content) จาก Keyword ที่ต้องการ, การทำ Internal Link ไปจนถึงการปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์ให้เป็นระเบียบ เพื่อให้ง่ายต่อการที่ Bot เข้ามาเก็บข้อมูลภายในเว็บไซต์ เป็นต้น
  • Off-Page ในส่วนนี้จะมุ่งเน้นไปที่การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ เพราะนอกจากการทำ Content ที่มีเนื้อหาดีแล้ว Content ดังกล่าวต้องได้รับการยอมรับจากเว็บไซต์อื่นด้วย จึงเป็นที่มาของความสำคัญในการทำ Link Building หัวใจหลักของ Off-Page SEO

Link Building คืออะไร ทำไมต้องใช้กลยุทธ์นี้ทำ SEO

Link Building คือ กลยุทธ์ในการทำให้เว็บไซต์อื่นลิงก์มายังเว็บไซต์ของเรา (Backlink) เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ ซึ่งความน่าเชื่อถือนี้เองเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ Google ให้ความสำคัญในการจัดอันดับ SEO

โดยการทำ Link Building คือกลยุทธ์ที่สำคัญของการทำ Off-Page SEO ต้องอาศัยการวางกลยุทธ์เพื่อให้ได้มาซึ่ง Backlink กลับมาที่ยังเว็บไซต์ของเรา ทั้งการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำคอนเทนต์ให้มีคุณภาพ หรือการทำ Influencer Outreach เป็นต้น

ความสำคัญของ Backlink ที่มีต่อการทำ SEO

หลังจากทำความรู้จัก Link Building กันไปแล้ว เรามาทำความเข้าใจกันบ้างดีกว่าว่า Link Building นี้มีประโยชน์ต่อการทำ SEO ของเราอย่างไร

1. Google มีความเข้าใจเนื้อหาในเว็บไซต์ของเรามากขึ้น

Google จะสามารถเข้าใจเนื้อหาในเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้นจากการส่ง Google Bot มาเก็บข้อมูลจากลิงก์ที่เราเชื่อมโยงไว้ในเนื้อหาบนเว็บไซต์ ซึ่งถ้าเรามีลิงก์ที่อ้างอิงกลับมามาก ก็จะส่งผลให้เว็บไซต์ของเราถูกระบุว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้เว็บไซต์ของเราจะต้องมีจำนวนบทความที่มากพอให้ Google Bot วิ่งตามเก็บข้อมูลด้วย

2.ช่วยให้เว็บไซต์ของเราผ่านเกณฑ์ E-A-T Factor

E-A-T Factor ย่อมาจาก Expertise, Authoritativeness และ Trustworthiness เป็นไกด์ไลน์ที่ Google ใช้ในการวัดความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องที่กำลังสื่อสารจริงหรือไม่ ซึ่งหากภายในเว็บไซต์ของเรามีการสร้าง Link Building เชื่อมโยงไปยังข้อมูลต่างๆ ก็จะช่วยให้ Google มองว่าเว็บไซต์ของเรานั้นดูน่าเชื่อถือด้วยเช่นกัน

backlink

ภาพ : ตัวอย่างการส่ง Backlink กลับมายังเว็บไซต์

กลยุทธ์การสร้าง Link Building ด้วยการหา Backlink

โดยกลยุทธ์การทำ Link Building จะให้ความสำคัญกับ Backlink เป็นหลัก ซึ่งวิธีการหา Backlink เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ มีดังนี้

1.สร้างคอนเทนต์คุณภาพเพื่อรับ Natural Editorial Links

Natural Editorial Links คือ Backlink ที่เราได้รับจากการสร้าง Content ที่มีคุณภาพและเป็นประโยชน์ต่อคนอ่าน จนถูกนำไปใช้เป็นแหล่งอ้างอิงโดยเว็บไซต์อื่นที่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน (นำข้อมูลไปใช้งานและอ้างอิงด้วยการแปะลิงก์บทความของเรา)

ซึ่งการทำ Nature Editorial Links ถือเป็นการสร้าง Backlink ที่มีคุณภาพสูง เพราะนอกจากสร้างความน่าเชื่อถือแล้ว ยังได้ Traffic จากเว็บไซต์ที่นำ Content ของเราไปอ้างอิงอีกด้วย

2.โพสต์บทความลงเว็บไซต์อื่น (Guest Blogging)

การทำ Guest Blogging คือ การเขียนโพสต์หรือแชร์บทความลงในเว็บไซต์อื่น และแปะลิงก์กลับมายังเว็บไซต์เรา เพื่อส่งต่อความน่าเชื่อถือกลับมา โดยมีเกณฑ์ในการเลือกเว็บไซต์ในการทำ Guest Blogging ดังนี้

  • ค่า Domain Authority (DA) ต้องสูง Backlink ที่ดีต้องได้รับจากเว็บไซต์ที่มีคุณภาพด้วย โดยการได้รับ Backlink จากเว็บไซต์ที่มีค่า DA สูง จะได้ความน่าเชื่อถือมากกว่าจากเว็บไซต์ที่มีค่า DA ต่ำ
  • เนื้อหาเว็บไซต์ต้องเชื่อมโยงกัน (Relevant) เช่น หากเราเป็นเว็บไซต์ด้านท่องเที่ยว การได้รับ Backlink จากเว็บไซต์ท่องเที่ยวเหมือนกันก็จะส่งผลดีกว่าเว็บไซต์คนละประเภท โดยการรับ Backlink จากเว็บไซต์เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกัน นอกจากจะเพิ่มความน่าเชื่อถือแล้ว จะยังช่วยป้องกัน Google ทำโทษด้วย เนื่องจาก Google มี Algorithm ในการตรวจจับการทำ Backlink เพื่อป้องกันคนโกง หากเว็บไซต์ที่อ้างอิงไม่เกี่ยวข้องกัน ก็จะโดน Google ลงโทษเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ ในการทำ Guest Blogging เราสามารถทำได้ด้วยการอาสาเขียนบทความให้เว็บไซต์อื่นฟรี โดยขอให้เขาส่ง Backlink กลับมาผ่านบทความที่เราเขียน หรือส่งลิงก์ผ่านประวัติส่วนตัวของผู้เขียน เป็นต้น

3.การทำเทคนิค Skyscraper

Skyscraper เป็นเทคนิคในการเปลี่ยนคอนเทนต์คุณภาพของคนอื่น ให้กลายเป็นต้นทุนในการทำ Backlink โดยใช้ Influencer หรือเว็บไซต์ที่มี Domain Authority สูงเป็นกุญแจในการส่ง Backlink มายังเว็บไซต์ของเรา โดยเทคนิคการทำ Skyscraper เบื้องต้นมีดังนี้

1.ค้นหา Influencer

มองหา Influencer ที่มีอิทธิพลในวงการหรือมีความเชื่อมโยงกับเนื้อหาคอนเทนต์ของเรา เช่น หากเว็บไซต์เรามีเนื้อหาด้านท่องเที่ยว Influencer ในวงการก็คือ Lonely Planet เป็นต้น นอกจากเนื้อหาแล้ว เว็บไซต์ดังกล่าวควรมีค่า DA ที่สูงด้วย เพื่อเพิ่มความเชื่อถือให้กับเว็บไซต์เรา

2.สำรวจคู่แข่ง

สำรวจคู่แข่งว่ามีคอนเทนต์ไหนบ้างที่เนื้อหาได้รับ Backlink จำนวนมาก หรือเป็นคอนเทนต์ที่ Influencer เคยส่ง Backlink ไปให้

3.ตรวจสอบคอนเทนต์

ตรวจสอบคอนเทนต์เหล่านั้นมีจุดบกพร่องตรงไหนที่เราสามารถแก้ไขได้ เช่น เนื้อหาคอนเทนต์เป็นปี 2019 เราก็สร้างคอนเทนต์อัปเดตให้เป็นปีปัจจุบัน เป็นต้น

4.ติดต่อ Influencer

ติดต่อและส่งคอนเทนต์ให้ Influencer อ่าน รวมถึงขอให้เขาส่ง Backlink กลับมา ถ้าหากคอนเทนต์เราเป็นประโยชน์ต่อเขา เพียงเท่านี้เราก็มีโอกาสได้รับทั้ง Backlink และ Traffic จาก Influencer แล้ว

ปล.อีกหนึ่งเทคนิคสำคัญในการทำ Skyscraper คือ ตรวจสอบว่าลิงก์ Influencer ส่งไปยังคู่แข่งนั้นเป็น Dofollow ไหม หากเป็น Dofollow แสดงว่าโอกาสในการทำ Skyscraper กับคอนเทนต์นี้มีมากขึ้น เพราะเป็นคอนเทนต์ที่ Influencer ยอมส่ง Domain Authority ไปยังเว็บไซต์ที่ทำคอนเทนต์ให้

4.ทำคอนเทนต์แบบ Infographic

Infographic ถือเป็นคอนเทนต์ที่สามารถตอบสนองต่อการสร้าง Backlink ได้ดี โดยจากสถิติพบว่า Infographic ช่วยเพิ่ม Traffic ให้กับเว็บไซต์ได้มากถึง 12% อีกทั้ง Code ที่ใช้ในการแชร์ นอกจากรูปภาพแล้วยังสามารถเชื่อมมายังคอนเทนต์เว็บไซต์ของเราได้อีกด้วย

โดย Code ในการแชร์ Infographic เราสามารถสร้างได้ผ่านการ Generate จากลิงก์รูปภาพ Infographic ในเว็บไซต์ siegemedia เพียงเท่านี้เราก็จะได้ Code ที่ใครก็สามารถ Copy Code ไปวางบนเว็บไซต์ได้แล้ว

code-for-infographic

ภาพ: ตัวอย่าง Code ในการแชร์ Infographic ของเว็บไซต์ HubSpot

เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ สำหรับการทำ Backlink จาก Infographic คือเราสามารถนำ Code ไปแปะตามเว็บไซต์ด้านกราฟิค อย่าง Graphs.net, Visual.ly และ Pinterest หรือนำไปแปะบน Social Media ที่เน้นความรู้อย่าง Reddit เป็นต้น

และเช่นเดียวกับเว็บไซต์ Social Media เว็บไซต์เหล่านี้มักตั้งค่าเป็น NoFollow แต่สิ่งที่เราได้กลับมาคือ การได้โปรโมทคอนเทนต์ลงบนแพลตฟอร์มที่รวมคนที่สนใจด้านนี้จริงๆ และเมื่อคอนเทนต์ของเราดีพอ ก็มีโอกาสที่ Traffic จะกลับมาสู่เว็บไซต์ของเรา

Link Building กับประโยชน์ต่อการทำธุรกิจ

การทำ Link Building มีประโยชน์โดยตรงกับธุรกิจ ทั้งในด้านการ Awareness และ การสร้าง Traffic ให้กับเว็บไซต์ทำให้เว็บไซต์มีโอกาสติดอันดับที่ดีในหน้าค้นหา

ซึ่งทาง Magnetolabs ได้รวมรวบบทความด้านการตลาดออนไลน์ ไว้ให้กับคนที่สนใจ Digital Marketing อย่างคุณ แต่หากคุณมีข้อสงสัยหรือสนใจทำการตลาดออนไลน์ เรา Magnetolabs ยินดีพร้อมให้บริการ เพื่อสร้างแรงดึงดูดให้กับการตลาดของบริษัทคุณ

New call-to-action

Author

Peranut

"Passionate Learner"
"Passionate Learner"

Related Blog

Leave Your Comment