SHARE

5 แนวทางการทำ Inbound Marketing ในช่วงวิกฤต

นับตั้งแต่ช่วงเวลาที่เกิด COVID ขึ้นก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว แต่ผลกระทบจากไวรัสตัวนี้ยังคงอยู่และอาจจะอยู่กับทุกคนไปอีกหลายเดือน (หรือหลายปี)

ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ผมได้จัดงาน Bangkok HubSpot User Group ขึ้นมาโดยได้เชิญทาง HubSpot มาร่วมแชร์ประสบการณ์ด้วยในหัวข้อ “How to do Inbound Marketing in a time of crisis”

ซึ่งผมคิดว่าเนื้อหาใน Meetup น่าจะมีประโยชน์กับคนที่สนใจหรือกำลังทำ Inbound Marketing อยู่ เลยหยิบเอาเนื้อหาใน Meetup นั้นๆ มาเขียนเป็นบทความ

หลังจากที่คุณอ่านบทความนี้จบคุณจะได้ไอเดียเพิ่มเติมในการทำ Inbound Marketing ในช่วงวิกฤตให้กับธุรกิจของคุณแน่ๆ ครับ

ถ้าคุณอยากได้สไลด์ของงาน Meetup คุณสามารถไปดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับ
Download File

 

5 แนวทางการทำ Inbound Marketing ในช่วงวิกฤต

1. The Best Time for Inbound is Now

ทุกการเปลี่ยนแปลงจะมีแรงต้าน

inbound-marketing-want-change?

Source Starecat

ในเวลาปกติ การที่คุณจะปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานภายในบริษัทหรือหยิบเอาแนวคิดใหม่ๆ มาให้ทีมงานใช้ มันอาจจะเป็นเรื่องไม่ง่าย เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้มีทั้งคนที่ทำงานได้ง่ายขึ้นและทำงานได้ยากขึ้น มีทั้งคนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ มีทั้งคนที่เข้าใจและคนที่ไม่เข้าใจ

แต่ในช่วงเวลาที่ไม่ปกติอย่างตอนนี้ การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้หากอยากที่จะอยู่รอดและไปต่อ เพราะฉะนั้นในช่วงนี้คนจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงได้มากกว่าปกติ

โอกาสนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับคุณและธุรกิจของคุณที่จะเปลี่ยนเพื่อสิ่งที่เหมาะสมกว่าในสถานการณ์ปัจจุบันและอนาคต

เช่นเปลี่ยนจากการทุ่มเงินซื้อโฆษณามาเป็นแบ่งเงินบางส่วนมาเริ่มทำ Inbound Marketing

เปลี่ยนจากการจดรายชื่อลูกค้าในกระดาษหรือให้ทีมขายจำเอา มาเป็นเก็บรายชื่อลูกค้าไว้ในระบบ CRM

เปลี่ยนจากการใช้ Spreadsheet ในการแจกจ่ายละติดตามงานมาเป็นการใช้ Project Management Software อย่าง Asana, Trello หรือ Clickup

2. Outbound & Inbound Reunited!

outbound-vs-inbound

การทำ Inbound Marketing คือหนึ่งในวิธีการทำการตลาดที่ได้ผลลัพธ์ที่ยั่งยืนในระยะยาวเนื่องจากว่าหัวใจหลักของ Inbound คือช่วยเหลือก่อนได้รับ ซึ่งส่งผลให้แบรนด์ถูกมองว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ

แต่ในช่วงเวลาวิกฤตนี้ ไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่จะสามารถรอผลลัพธ์จากการทำ Inbound Marketing ไม่ได้เนื่องจากยอดขายหรือลูกค้าที่เข้ามาซื้อสินค้า/บริการนั้นตกลง

ในความเห็นของผม Inbound Marketing นั้นเป็นสิ่งที่ธุรกิจที่เป็น High-involvement Business (ธุรกิจที่คนต้องคิด พิจารณาก่อนตัดสินใจ) ต้องทำอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าในช่วงเวลานี้ การพิจารณาเอา Outbound Marketing อย่างเช่นการซื้อโฆษณาก็เป็นสิ่งที่อาจจะช่วยพยุงและช่วยทำให้แบรนด์เดินหน้าไปต่อได้

Note: คำว่าซื้อโฆษณา ไม่ได้หมายถึงการทุ่มเงินไปกับการสร้างแคมเปญ ทำแคมเปญ แต่หมายถึงว่าใช้การซื้อโฆษณาผสมกับการทำ Inbound Marketing ผ่านการทำ Remarketing เป็นต้น

Inbound และ Outbound ต่างมีจุดเด่นจุดด้อยที่ต่างกัน ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องเลือกทำแค่อย่างใดอย่างหนึ่ง คุณสามารถหลอมรวมทั้ง 2 ศาสตร์เพื่อทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีจากการทำการตลาดได้

3. Data is Power

data-inbound-marketing

 

การมีข้อมูล First Party Data (ข้อมูลที่ทำให้คุณสามารถติดต่อลูกค้าได้โดยตรงเช่นอีเมล เบอร์โทรศัพท์) เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าคุณยังไม่มีข้อมูลตรงส่วนนี้ผมแนะนำให้รีบเก็บเพราะในอนาคตการเก็บข้อมูลจะยากขึ้นและมีราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ สาเหตุนั้นเป็นเพราะกฏระเบียบต่างๆ ก็จะเข้มงวดขึ้น และคนเริ่มคิดมากขึ้นว่าจะให้ข้อมูลของเขากับแบรนด์ดีรึเปล่า

Note: คุณสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลลูกค้าได้ที่บทความเกี่ยวกับ Lead Generation

แต่ถ้าคุณมีข้อมูล First Party Data อยู่บ้างแล้ว ผมแนะนำให้คุณลองเอาข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ดู เช่นลองดูว่าสินค้าไหนของคุณที่ลูกค้าชอบซื้อ (เวลาขายจะได้เน้นสินค้านั้นหนักๆ) หรือลูกค้าคนไหนชอบซื้อสินค้าอะไรเป็นพิเศษ (เวลาคุยกับลูกค้าคนนั้นๆ จะได้เสนอสินค้าได้ถูก)

ทั้งนี้ พอพูดถึง Data แล้ว สิ่งที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้เลยคือ PDPA (พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล) ซึ่งเป็นกฎหมายที่ออกมาเพื่อคุ้มครองสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมไม่ให้องค์กรนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่ได้รับความยินยอม ไปจนถึงการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดการนำข้อมูลไปใช้โดยมิชอบ

ถึงแม้ว่า PDPA จะถูกเลื่อนไปบังคับใช้ในปี 2021 แล้ว แต่ผมแนะนำให้คุณรีบเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ ครับ ยิ่งเตรียมตัวเร็ว จะยิ่งได้เปรียบตอนประกาศใช้จริงครับ

คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ PDPA ได้ที่ สรุปกฎหมาย PDPA พร้อมแนะ Action Plan เพื่อผู้บริหารและทีม Digital Marketing ปรับตัวและจัดการข้อมูลให้ถูกต้องในปีนี้

4. Focus on Customers

inbound-framework

ใน Framework Flyweel ของการทำ Inbound ที่เป็น Attract, Engage และ Delight ยิ่งคุณดูแลลูกค้าดีแค่ไหน วงล้อ Inbound ของคุณก็จะหมุนเร็วมากขึ้น ลูกค้าของคุณจะช่วย Attract ให้คนใหม่ๆ เข้ามาหาคุณ

บทความใน Harvard Business Review เคยกล่าวไว้ว่า “Acquiring a new customer is anywhere from 5 to 25 times more expensive than retaining an existing one. – การหาลูกค้าใหม่มีค่าใช้จ่ายมากกว่าการรักษาลูกค้าเก่า 5-25 เท่า”

เพราะฉะนั้นผมแนะนำว่า แทนที่คุณจะไปนั่งคิดกลยุทธ์ว่าจะควานหาลูกค้าใหม่ยังไงดี การปรับแนวคิดมาเป็นจะดูแลลูกค้าปัจจุบันให้ดีขึ้นได้ยังไงดี พร้อมกับการคิดเรื่อง Upsell/Downsell เพิ่มเติม รวมไปถึงการพูดคุยกับลูกค้าปัจจุบันเพื่อให้พวกเขาแนะนำคุณให้กับเพื่อนๆ หรือคนรู้จักของเขา อาจจะเป็นวิธีการที่ทำให้คุณได้งานเพิ่มหรือได้ลูกค้าเพิ่มมากกว่าที่จะต้องวิ่งไปตามหาก็เป็นได้

5. Take Care of Your People

นอกจากลูกค้าแล้ว กลุ่มคนอีกกลุ่มที่สำคัญไม่แพ้กันคือทีมงานของคุณ

Inbound Marketing ก็สามารถปรับเปลี่ยนเป็น Inbound HR ได้เช่นกัน

คำแนะนำแรกของผมคือคุณควรที่จะต้อง “ซื่อตรงและโปร่งใส”

ถ้าธุรกิจของคุณอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก การแชร์เรื่องนี้ให้กับทีมงานของคุณเป็นเรื่องที่ดีเพราะพวกเขาจะได้รู้ว่าธุรกิจของคุณกำลังมีปัญหาและจะได้ช่วยคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาร่วมกัน

ถ้าธุรกิจของคุณดำเนินต่อไปได้ในสถานการณ์แบบนี้ การแชร์เรื่องนี้ให้กับทีมงานก็เป็นเรื่องที่ควรทำเช่นกัน เพราะพวกเขาจะได้ไม่ต้องคาดเดาไปต่างๆ นาๆ ว่าสถานะของบริษัทเป็นยังไง และพวกเขาจะยังได้ไปต่อรึเปล่า

นอกเหนือจากเรื่องนี้แล้ว บางทีการเติมความสุขให้กันเล็กๆ น้อยๆ ในช่วงเวลายากลำบากก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ

present-for-colleague

ยกตัวอย่างเช่น Magnetolabs ของเราได้มีการส่ง Mystery Box ไปให้กับทุกคนในทีมในช่วงสงกรานต์ (ซึ่ง ณ ช่วงนั้นทุกคน Work from Home มาได้เกือบๆ เดือนแล้ว และน่าจะกำลังเฉาได้ที่) ภายในกล่องมีของจำเป็นสำหรับช่วงนั้นหลายอย่างเช่นหน้ากาก เจลแอลกอฮอลล์ และกาแฟ Root

ถ้าคุณเห็นว่าไอเดียนี้น่าสนใจก็เอาไปลองทำได้นะครับ 😃

สรุป

และนี่คือ 5 แนวทางในการทำ Inbound ในช่วงวิกฤตินี้นะครับ

ผมเชื่อว่าถ้าคุณมุ่งมั่นตั้งใจ แก้ไขปัญหา และพร้อมปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ COVID จะไม่สามารถพิชิตคุณได้แน่ๆ ครับ

ถ้ามีไอเดียอื่นที่น่าสนใจ เขียนมาแชร์ให้ผมและผู้อ่านคนอื่นๆ ได้ในคอมเมนต์นะครับ

Stay Safe & Strong ครับ 🙂

Note: ถ้าคุณอยากได้สไลด์ของงาน Meetup คุณสามารถไปดาวน์โหลดได้ที่นี่ครับ
Download File

New call-to-action

Author

Sitthinunt

Managing Partner ของ Magnetolabs หลงใหลในเรื่อง Inbound Marketing หรือการตลาดแบบแรงดึงดูด เวลาว่างจากการเขียนคอนเทนต์ หรือตั้งค่า Marketing Funnel มักจะอ่านหนังสือ บน Kindle อันเล็กๆ หรือไม่ก็ฟังนักธุรกิจ/นักการตลาดคนโปรดคลุกเรื่องเล่าเคล้าเรื่องราวบน Podcast
Managing Partner ของ Magnetolabs หลงใหลในเรื่อง Inbound Marketing หรือการตลาดแบบแรงดึงดูด เวลาว่างจากการเขียนคอนเทนต์ หรือตั้งค่า Marketing Funnel มักจะอ่านหนังสือ บน Kindle อันเล็กๆ หรือไม่ก็ฟังนักธุรกิจ/นักการตลาดคนโปรดคลุกเรื่องเล่าเคล้าเรื่องราวบน Podcast

Related Blog

Leave Your Comment